แชร์

วิธีฝึกลูกจัดการความรู้สึกตัวเองง่ายๆ ได้ผลจริง

อัพเดทล่าสุด: 17 ก.ค. 2025
264 ผู้เข้าชม

 

วิธีฝึกลูกจัดการความรู้สึกตัวเองง่ายๆ ได้ผลจริง

 

ในยุคที่เด็กต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงรอบด้าน ทั้งในห้องเรียน สังคม และสื่อออนไลน์ การฝึกฝนให้เด็กสามารถจัดการกับความรู้สึกของตัวเองอย่างมีระบบและเข้าใจตนเองได้ดีนั้น กลายเป็นพื้นฐานสำคัญของการเติบโตอย่างมั่นคงและมีความสุข บทความนี้จึงนำเสนอวิธีง่าย ๆ ที่พ่อแม่สามารถนำไปใช้ได้ทันที เพื่อพัฒนา EQ ของลูกให้เติบโตเป็นคนที่มีความมั่นคงทางอารมณ์

 

ทำไม EQ จึงสำคัญกับเด็ก: เด็กที่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี จะมีแนวโน้มเข้าสังคมได้ง่าย มีความมั่นใจ มีทักษะการสื่อสารที่ดี และมีสุขภาพจิตที่แข็งแรง การเสริมสร้าง EQ ช่วยให้เด็กมีความยืดหยุ่นในการเผชิญกับความเครียด สามารถจัดการกับความผิดหวัง และเรียนรู้จากประสบการณ์ในชีวิตได้ดีกว่าเด็กที่ไม่ได้รับการฝึกฝนเรื่องอารมณ์อย่างเหมาะสม

 

 

10 วิธีง่าย ๆ ในการฝึกลูกจัดการความรู้สึก

สอนคำศัพท์อารมณ์: เริ่มจากพื้นฐาน เช่น ดีใจ โกรธ เศร้า กลัว โดยใช้เกมหรือบัตรภาพ เพื่อให้เด็กแสดงออกถึงความรู้สึกได้ชัดเจน
พ่อแม่เป็นตัวอย่าง: พ่อแม่ควรพูดถึงความรู้สึกของตนเอง เช่น "แม่รู้สึกเหนื่อยจังวันนี้" เพื่อให้เด็กเรียนรู้วิธีแสดงความรู้สึกที่เหมาะสม
สอนเทคนิค Pause & Breathe: เมื่อรู้สึกโกรธหรือเศร้า ให้เด็กหยุดนิ่ง 5 วินาที แล้วหายใจลึก 3 ครั้ง เป็นการตั้งสติแบบง่าย ๆ
ให้ลูกเลือกกิจกรรมผ่อนคลาย: อนุญาตให้ลูกเลือกทำสิ่งที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลง วาดรูป หรือเล่นของเล่น ก่อนเริ่มกิจกรรมใหม่
สร้างกิจวัตรประจำวันสะท้อนอารมณ์: เช่น หลังเลิกเรียนให้ถามว่า "วันนี้รู้สึกยังไงบ้าง" หรือก่อนนอนให้พูดถึงเรื่องที่ชอบในวันนั้น
ใช้ Emotion Journal: ให้ลูกเขียนหรือวาดรูปแสดงอารมณ์ในแต่ละวัน เป็นการสะท้อนอารมณ์และสร้างความตระหนักรู้
ฝึกบทบาทสมมติ (Role Play): ลองเล่นสมมติสถานการณ์ เช่น เพื่อนแย่งของเล่น แล้วให้ลูกลองหาทางจัดการกับอารมณ์ในสถานการณ์นั้น
ให้คำชมเชิงบวกเมื่อเด็กแสดงอารมณ์ได้ดี: เช่น "แม่ภูมิใจที่หนูพูดว่าไม่พอใจ แทนที่จะตะโกนออกมา"
เชื่อมโยงอารมณ์กับร่างกาย: สอนให้เด็กสังเกตอาการ เช่น หัวใจเต้นแรง มือสั่น หรือปวดท้อง เมื่อรู้สึกโกรธหรือเครียด แล้วเรียนรู้วิธีดูแลร่างกายไปพร้อมกัน
ทบทวนบทเรียนอารมณ์: เมื่อเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว ให้ช่วยกันพูดคุยถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และสิ่งที่สามารถทำได้ดีขึ้นในครั้งหน้า

 

 

การปรับตามช่วงวัย: เด็กวัย 3-5 ขวบ ควรใช้สื่อภาพหรือของเล่นในการเรียนรู้เรื่องอารมณ์ ส่วนวัยประถมต้น (6-8 ขวบ) เริ่มฝึกการเขียนหรือบันทึกอารมณ์ได้ และวัยประถมปลาย (9-12 ขวบ) สามารถเข้าใจอารมณ์ซับซ้อนขึ้น จึงเหมาะกับบทบาทสมมติ และการพูดคุยลึก ๆ มากขึ้น

 

บทบาทสำคัญของพ่อแม่: พ่อแม่ควรมีความสม่ำเสมอในการฝึกลูก ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ แต่ต้องจริงใจและเข้าใจลูกอย่างลึกซึ้ง การฝึก EQ จะได้ผลมากขึ้นถ้าพ่อแม่ดูแลอารมณ์ของตัวเองให้มั่นคง พร้อมเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกเห็น

 

 

คำถามที่พบบ่อย

ถ้าลูกโกรธง่ายควรทำอย่างไร: เริ่มจากสอนคำว่า "โกรธ" แล้วใช้เทคนิคหายใจ หรือให้ลูกพูดออกมาตรง ๆ แทนการกรีดร้อง
ถ้าลูกไม่อยากจดอารมณ์: ลองเปลี่ยนเป็นวาดรูป หรือใช้สติ๊กเกอร์รูปอารมณ์แทนการเขียน
ทำยังไงให้ลูกรู้สึกสนุกกับการฝึกอารมณ์: ให้ลูกมีส่วนร่วมเลือกกิจกรรม และเสริมแรงด้วยคำชม หรือรางวัลเล็ก ๆ

 

กิจกรรมเสริม EQ ง่าย ๆ

เกมจับคู่ภาพอารมณ์: ใช้บัตรภาพอารมณ์ให้ลูกจับคู่
วาดทะเลอารมณ์: ให้ลูกวาดคลื่นมากหรือน้อยตามความรู้สึกในวันนั้น
เกมเป่าลูกโป่ง: ให้ลูกเป่าลูกโป่งก่อนพูด เมื่อต้องการควบคุมอารมณ์โกรธ

 

 

การฝึกลูกจัดการความรู้สึกของตัวเองไม่จำเป็นต้องซับซ้อนหรือใช้เวลานาน หากทำอย่างสม่ำเสมอและสนุก เด็กจะเรียนรู้ที่จะเข้าใจตนเอง สื่อสารอารมณ์ได้ดีขึ้น และมีทักษะชีวิตที่แข็งแรง ซึ่งเป็นรากฐานของการเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต

 

 

 


บทความที่เกี่ยวข้อง
กระเป๋าล้อลาก ลดปัญหาเสื้อเปียกเหงื่อจากการสะพาย
เด็กจำนวนมากต้องสะพายกระเป๋าหนักไปโรงเรียนทุกวัน ทำให้เสื้อเปียกชื้นจากเหงื่อและรู้สึกไม่สบายตัว การเลือกใช้กระเป๋าล้อลากเป็นอีกหนึ่งทางออกที่ช่วยลดการสัมผัสระหว่างกระเป๋ากับแผ่นหลัง เด็กไม่ต้องรับน้ำหนักมากจนร่างกายเกิดความร้อนและเหงื่อออกมากเกินไป ช่วยให้การเดินทางไปโรงเรียนเบาสบายและมั่นใจตลอดวัน
4 ก.ย. 2025
เด็ก 9 ขวบอยากเรียนมากขึ้น เพราะมีกระเป๋าล้อลากคู่ใจ
เด็กวัย 9 ขวบอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง การสร้างแรงบันดาลใจเล็ก ๆ จากสิ่งใกล้ตัว เช่น กระเป๋านักเรียนล้อลากที่ใช้งานง่าย ดีไซน์ถูกใจ และช่วยลดความเหนื่อยล้า สามารถเปลี่ยนบรรยากาศการไปโรงเรียนให้เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความกระตือรือร้นได้
3 ก.ย. 2025
เด็กป.4 ใช้กระเป๋าล้อลากแล้วไปโรงเรียนอย่างมั่นใจ
เด็กชั้นประถมปีที่ 4 กำลังอยู่ในวัยที่เริ่มอยากมีอิสระแต่ก็ยังอ่อนไหวทางอารมณ์ หลายครอบครัวมักเจอปัญหาลูกงอแง ไม่อยากไปโรงเรียน โดยเฉพาะเมื่อรู้สึกว่าการเดินทางเหนื่อยหรือกระเป๋าหนักเกินไป การมีกระเป๋าล้อลากที่เหมาะสมกับวัย จึงกลายเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้เด็ก ป.4 เดินทางไปโรงเรียนได้อย่างสบายใจ ไม่รู้สึกว่าต้องแบกภาระหนักจนหมดพลัง
1 ก.ย. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy